Mazda 2 ปรับออปชั่น

มาสด้าเผยว่าได้ปรับเพิ่มอุปกรณ์มาตรฐานหลากหลายรายการเพื่อเพิ่มความโดดเด่นให้กับตัวรถ ทั้งเรื่องของดีไซน์ทั้งภายในและภายนอกเพื่อให้การใช้งานที่ลงตัวมากยิ่งขึ้น ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ทุกกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งการปรับโฉมครั้งนี้ทำให้รถมาสด้า2 มีคาแรกเตอร์และฟังก์ชั่นของรถสปอร์ตซิตี้คาร์อย่างชัดเจนกว่ารถบีคาร์อื่นๆ ในตลาด

โดยอุปกรณ์เพิ่มเติมทำให้โดดเด่นด้วยไฟหน้าแบบฮาโลเจน แบบ 4-Beam โปรเจคเตอร์ ล้ออัลลอยด์สปอร์ตลายใหม่ ขนาด 16 นิ้ว ไฟเลี้ยวที่กระจกมองข้าง มาตรวัดดีไซน์ใหม่สีดำสปอร์ต เบาะและแผงประตูหุ้มหนัง เบาะผ้าลายใหม่ วิทยุ ซีดี เอ็มพี3 พร้อมตกแต่งด้วยสีดำเปียโนแบล็ก แผงสวิตช์ควบคุมที่พวงมาลัยดีไซน์ใหม่ ช่องเชื่อมต่อ USB/AUX มาพร้อมเฉดสีใหม่ สีฟ้าอควาติกบลู และสีขาวอาร์คติกไวท์ มีให้เลือกทั้งสปอร์ตแฮชต์แบ็ค 5 ประตู และเอลิแกนซ์ ซีดาน 4 ประตู ที่สำคัญมาพร้อมกับระบบความปลอดภัยรอบคันทั้งถุงลมนิรภัยคู่หน้า ระบบเบรก 4W-ABS และรับกระจายแรงเบรก EBD ในทุกรุ่น
      
       นอกจากนี้มาสด้ายังคงเลือกใช้พรีเซ็นเตอร์เพื่อเป็นการบ่งบอกถึงสถานะตัวตนที่แท้จริง และสามารถสื่อสารได้โดยตรงกับกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย โดยต่อสัญญากับ 2 ดาราหนุ่ม “ณเดชน์ คูกิมิยะ” เป็นพรีเซ็นเตอร์ของมาสด้า2 เอลิแกนซ์ ซีดาน 4 ประตู และ “เป้ อารักษ์ อมรศุภศิริ” ในรุ่นสปอร์ต แฮ็ชต์แบ็ค 5 ประตู

ราคามาสด้า2 สปอร์ต แฮชท์แบ็ก

รุ่น	ราคา(บาท)
Groove MT ล้ออัลลอยด์ 15 นิ้ว	550,000
Groove AT ล้ออัลลอยด์ 15 นิ้ว	585,000
Spirit AT ล้ออัลลอยด์ 16 นิ้ว	654,000
Maxx Sports ล้ออัลลอยด์ 16 นิ้ว	705,000

ราคามาสด้า2 เอลิแกนซ์ ซีดาน

รุ่น	ราคา(บาท)
Groove MT ล้ออัลลอยด์ 15 นิ้ว	550,000
Groove AT ล้ออัลลอยด์ 15 นิ้ว	579,000
Spirit AT ล้ออัลลอยด์ 16 นิ้ว	646,000
Maxx ATล้ออัลลอยด์ 16 นิ้ว	705,000

Mazda 3 เครื่อง 1.6

บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด จัดงานเปิดตัวรถใหม่ 2 รุ่นรวด เริ่มจากมาสด้า 3 เครื่องยนต์ 1.6 ลิตร ที่ชูดีไซน์สปอร์ตโฉบเฉี่ยว ทั้งตัวถังแฮทซ์แบ็กและซีดาน ภายใต้คอนเซ็ปต์ “ปฏิเสธ...ทุกความธรรมดา” ขณะที่รุ่นน้อง “มาสด้า 2 ใหม่”เพิ่มออปชันให้สวยเท่ ทั้งภายนอกภายใน หวังเพิ่มความคุ้มค่าหรือราคาปรับขึ้นประมาณ 10,000 บาท

หลังจากเปิดตัว “มาสด้า โฉมใหม่” (All New Mazda3) ไปเมื่อปีที่แล้ว โดยเริ่มจากรุ่นเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร ซึ่งมาสด้าเคลมว่าขายดีเป็นอันดับหนึ่งในกลุ่มเก๋งคอมแพกต์เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร หรือตลอดปี 2554 สามารถทำยอดขายได้ถึง5,476 คัน ล่าสุดจัดการเสริมรุ่นเครื่องยนต์ 1.6 ลิตรเข้ามาเป็นทางเลือก โดยชูรูปลักษณ์สปอร์ตโดดเด่น พร้อมสมรรถนะการขับขี่เร้าใจตามสไตล์ ซูม-ซูม      

       สำหรับการออกแบบมาสด้า3 รุ่น1.6 เจเนอเรชั่นใหม่ จะเน้นเส้นสายลายสปอร์ตและดูมีพลัง ในส่วนของกันชนหน้าและแผงกระจังด้านหน้าสอดผสานเข้ารูปกับฝากระโปรง ขณะที่รูปทรงของโป่งล้อหน้าและตัวถังด้านข้างทำให้ได้มาซึ่งมิติของรูปทรงที่สอดผสานสวยงามลงตัว ภายในห้องโดยสารกว้างขวาง โดดเด่นด้วยแผงหน้าจออัฉริยะขนาดใหญ่แสดงข้อมูลการขับขี่ ขณะที่แผงสวิทช์ควบคุมเครื่องเสียงถูกวางตำแหน่งไว้โดยรอบผู้ขับขี่เพื่อสร้างความรู้สึกให้ผู้ขับขี่เป็นศูนย์กลางในการควบคุม

 พร้อมเสริมอุปกรณ์อำนวยความสะดวก อาทิ เบาะนั่งหนังทรงสปอร์ตบัคเก็ตซีท (Sport Bucket Seat) หน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ MID (Multi Information Display) พร้อมปุ่มควบคุมที่พวงมาลัย ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแยกอิสระซ้ายขวา ไฟหน้าโปรเจคเตอร์แบบ 4-Beam ไฟตัดหมอกแต่งด้วยดีฟิวเซอร์ และล้ออัลลอยด์ลายสปอร์ต 16 นิ้ว
      
       มาสด้า 3 ใหม่รุ่น 1.6 ยังใช้ระบบบังคับเลี้ยว Electro-Hydraulic Power Assist Steering System (EHPAS) ที่ได้รับการออกแบบให้มีการเพิ่มตำแหน่งยึดชุดเฟืองบังคับเลี้ยวทำให้เพิ่มความสมดุลระหว่างความรู้สึกเป็นหนึ่งเดียวใน การบังคับเลี้ยว พร้อมช่วงล่างด้านหน้าเป็นแบบแม็คเฟอร์สันสตรัท และด้านหลังใช้ระบบอิสระมัลติลิงค์ เสริมด้วยเหล็กกันโคลงทั้งหน้าและหลัง
      
       ด้านความปลอดภัยเชิงป้องกันก่อนเกิดเหตุ อาทิ ระบบเบรกป้องกันล้อล็อคABSระบบกระจายแรงเบรก EBD ซึ่งเป็นอุปกรณ์มาตรฐานในทุกๆรุ่น ขณะเดียวกันอุปกรณ์ความปลอดภัยในเชิงช่วยลดความรุนแรงเมื่อเกิดเหตุ ประกอบด้วยโครงสร้างตัวถัง MAIDAS (Mazda Advanced Impact Distribution and Absorption System) และความแข็งแกร่งของโครงสร้างแบบ Triple H รวมถึงถุงลมนิรภัยคู่หน้า

 เครื่องยนต์ MZR ขนาด1.6 ลิตร 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว พร้อมระบบวาล์วแปรผัน Sequential Valve Timing (S-VT) ให้กำลังสูงสุด 105 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 144 นิวตันเมตรที่ 4,000 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด พร้อมโหมดแมนวล 

สำหรับมาสด้า 3 ใหม่รุ่น 1.6 ลิตรแบ่งเป็น 3รุ่นย่อย ราคา755,000 - 869,000บาท

รุ่น	ตัวถัง/ออปชัน	ราคา(บาท)
Mazda3 1.6L Groove	ซีดาน 4 ประตู เกียร์อัตโนมัติอัจฉริยะแอคทีฟเมติค ภายในสีดำ เบาะผ้า ล้ออัลลอยด์ 15 นิ้ว	755,000
Mazda3 1.6L Spirit	ซีดาน 4 ประตู เกียร์อัตโนมัติอัจฉริยะแอคทีฟเมติค ภายในสีดำ เบาะผ้า ล้ออัลลอยด์ 16 นิ้ว	825,000
Mazda3 1.6 Spirit Sports	แฮทซ์แบ็ก เกียร์อัตโนมัติอัจฉริยะแอคทีฟเมติค ภายในสีดำ เบาะหุ้มหนังสีดำ ล้ออัลลอยด์ 16 นิ้ว	869,000

  อนึ่งมาสด้า 3 รุ่นเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร เกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด ในรุ่นซีดานและแฮทซ์แบ็ก5 ประตู ขายในราคาเดียวกันคือ 1,064,000 บาท

Lexus RX270 RX350 RX450

เลกซัสกรุ๊ป แนะนำยนตรกรรมอเนกประสงค์ระดับหรู “เลกซัส RX ใหม่” ก้าวล้ำด้วยเทคโนโลยีเหนือระดับ ควบคู่ไปกับที่สุดแห่งศาสตร์ของการออกแบบ และคุณภาพแห่งวิศวกรรมการผลิตระดับโลก เพื่อลูกค้าชาวไทยได้สัมผัสล่าสุดหลังจากการเปิดตัวในประเทศญี่ปุ่น

      อีกก้าวหนึ่งที่สำคัญของตลาดรถเอนกประสงค์ระดับหรูของเมืองไทย กับเลกซัส RX ใหม่ ด้วยการสร้างสรรค์จากความท้าทายที่จะพัฒนายนตรกรรม SUV ระดับหรูที่ดีที่สุด พร้อมด้วยนวัตกรรมอันทันสมัยที่สุด นำมาซึ่งนิยามใหม่ของสมรรถนะอันทรงพลัง ความสะดวกสบาย รวมถึงความประณีตพิถีพิถันในทุกรายละเอียด ที่สำคัญยังโดดเด่นด้วยเอกลักษณ์ใหม่ของแบรนด์เลกซัส (New Face of Lexus) สะท้อนผ่านกระจังหน้าใหม่ แบบ Spindle Grille ที่มาพร้อมความปราดเปรียวลู่ลมตามหลักอากาศพลศาสตร์ และสุดยอดเทคโนโลยีอันก้าวล้ำจากเลกซัส ตอบสนองทุกความต้องการของทุกการเดินทาง กับสุดยอดแห่งพลังการขับขี่ในระบบไฮบริดกับ RX450h พร้อมกับทางเลือกแห่งประสบการณ์ระดับหรู กับ RX350 และ RX270

จุดเด่นในการออกพัฒนาของรถเลกซัส RX ใหม่ สะท้อนเอกลักษณ์ใหม่แห่งดีไซน์ NEW SUV DESIGN คงความเป็นเอกลักษณ์ กับ Spindle Grille จากเลกซัสทำให้ RX ใหม่ ดูดุดันและเพิ่มอารมณ์แห่งความเป็นสปอร์ตมากขึ้นกับกันชนดีไซน์ใหม่ ทรงสปอร์ตพร้อมช่องระบายลมแบบรังผึ้ง Honeycomb lower grille & sport lower bumper (เฉพาะรุ่น RX350) ไฟหน้าใหม่ พร้อม LED Daytime Running Lights เช่นเดียวกับไฟท้าย ดีไซน์ใหม่ (Rear Cluster Combination Lamp) ตลอดจนล้อแม็กซ์อัลลอยด์ลายใหม่ 235/60R18 สำหรับรุ่น RX270 และ 235/55R19 สำหรับ รุ่น RX350 และ RX450h

ขณะที่การออกแบบภายในใหม่ Luxurious & Spacious interior พวงมาลัย ‘three-spoke steering wheel’ ดีไซน์ใหม่ เพิ่มความสบายและผ่อนคลายในการขับขี่ มาพร้อมระบบปรับเบาะและพวงมาลัยอัตโนมัติ Seat/Steering auto return & away system ให้การขึ้น-ลงรถเป็นไปอย่างง่ายดาย เพิ่มแผงตกแต่งลาย metallic บริเวณ glove box ห้องโดยสารกว้างขวางพร้อมประโยชน์ใช้สอยยอดเยี่ยมเหนือระดับของยานยนต์เอนกประสงค์ ด้วยการทำงานแบบ one-action โดยเมื่อพับเบาะที่นั่งด้านหลัง เบาะจะเคลื่อนต่ำลงด้วยเพื่อเพิ่มพื้นที่ในการวางสัมภาระ

 เพิ่มความสุขในการขับขี่ใหม่ กับ INTELLIGENT DRIVING ASSIST ด้วย2nd Generation Remote Controller นวัตกรรมใหม่ที่ให้การควบคุมระบบต่างๆ เป็นไปเพียงปลายนิ้วสัมผัส, ระบบช่วยจอด (Parking Assist System), ระบบแผนที่นำทาง (Lexus Navigation System) พัฒนาขึ้นใหม่สำหรับลูกค้าชาวไทย เท่านั้น ด้วยทางเลือกเมนูที่มีภาษาไทย การแสดงแผนที่แบบ HDD (Hard Disk Drive) และบอกเส้นทางด้วยระบบเสียง พร้อมแสดงข้อมูลการจราจรในเขตกรุงเทพฯ แบบ Real-time ด้วยการเชื่อมโยงข้อมูลจากศูนย์ข้อมูลกองบังคับการตำรวจจราจร ตบท้ายด้วยระบบเครื่องเสียง Lexus Audio System 12 ลำโพง พร้อมรองรับระบบ DVD สำหรับ RX270

สำหรับเทคโนโลยีความปลอดภัยระดับโลก อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของเลกซัส เพื่อความมั่นใจในความปลอดภัยในการขับขี่ Vehicle Dynamics Integrated Management (VDIM) โครงสร้างถังได้รับการออกแบบให้แข็งแกร่งมากขึ้น ถุงลมเสริมความปลอดภัย 10 ตำแหน่ง Dual-stage SRS สำหรับคนขับและผู้โดยสารตอนหน้า ถุงลมเสริมความปลอดภัยบริเวณหัวเข่า ถุงลมเสริมความปลอดภัยด้านข้าง และม่านถุงลมเสริมความปลอดภัย โดยถุงลมเสริมความปลอดภัยสำหรับผู้โดยสารตอนหน้าเป็นแบบ Twin-Chamber ช่วยรองรับร่างกายส่วนบนและช่วยกระจายแรงกระแทก

ขุมพลังการขับเคลื่อน รุ่น RX450h ใหม่ ใช้เทคโนโลยีไฮบริด Lexus Hybrid Drive เจเนอเรชั่นที่ 2 ผสานเครื่องยนต์ V6 3.5 ลิตรกับมอเตอร์ไฟฟ้าแรงสูง 2 ตัว ทำให้ได้อัตราเร่งที่ทรงพลัง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในเวลาเพียง 7.8 วินาที โดยมีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเฉลี่ยเพียง 15.9 กม./ลิตร หรือสามารถเลือกโหมด EV (Electric Vehicle) เพื่อการขับขี่ที่ปราศจากเสียง ไม่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิง รวมถึงไม่ก่อให้เกิดมลพิษ โดยแบตเตอรี่ไฮบริดของ RX450h จะถูกชาร์จอย่างต่อเนื่องโดยอัตโนมัติเมื่อเครื่องยนต์ทำงาน จึงไม่จำเป็นต้องชาร์จเพิ่มเติมแต่อย่างใด นอกจากนี้ด้วยขนาดของแบตเตอรี่ที่กะทัดรัด RX450h จึงมีพื้นที่สำหรับสัมภาระที่กว้างขวางสะดวกสบาย
      
       สำหรับรุ่น RX350 ใหม่ ใช้เครื่องยนต์ V6 3.5 ลิตร Dual VVT-i (Variable Valve Timing-intelligent) ให้กำลังสูงสุด 275 แรงม้า ด้วยระบบ Active Torque Control All-Wheel Drive และรุ่น RX270 ติดตั้งเครื่องยนต์ L4 2.7 ลิตร Dual VVT-i 185 แรงม้า และระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 ระดับ ขับเคลื่อน 2 ล้อหน้า ประหยัดน้ำมันโดยเฉลี่ย 10.2 กม/ลิตร

รุ่น	ราคา(บาท)
RX270 รุ่น Premium	4,090,000
RX270 รุ่น Premium (Moonroof)	4,390,000
RX350 รุ่น Premium (Moonroof)	5,990,000
RX450h รุ่น Premium (Moonroof)	6,990,000

Ferrari 458 Spider

บริษัท คาวาลลิโน มอเตอร์ จำกัด ผู้แทนจำหน่าย และซ่อมบำรุงรถยนต์ เฟอร์รารี่แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย ใช้เวที Supercars & Import Cars Show 2012 ณ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็คอารีน่าเมืองทองธานี ฮอลล์ 8 เปิดตัว เฟอร์รารี่ 458 Spider อย่างเป็นทางการ

Ferrari 458 Spider

Rolls-Royce Phantom Drophead Coupé

แฟนธอม ดรอปเฮด คูเป้ จะเปิดตัวในตลาดโลกมาสักระยะแล้ว แต่ในเมืองไทยถือว่าสร้างความฮือฮาพอสมควร ด้วยการเป็นรถยนต์ที่แพงที่สุดในงานมอเตอร์โชว์ปีนี้ ด้วยราคาเริ่มต้น 37.9 ล้านบาท สำหรับ แฟนธอม ดรอปเฮด คูเป้ถูกพัฒนาบนพื้นฐานเดียวกับแฟนธอม และมาพร้อมหลังคาอ่อนแบบพับเก็บได้ด้วยระบบไฟฟ้า วางเครื่องยนต์ วี12 ขนาด 6750 ซีซี 453 แรงม้า ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด อัตราเร่ง 0-96 กิโลเมตร/ชั่วโมง ต่ำกว่า 6 วินาที และความเร็วสูงสุด 240 กิโลเมตร/ชั่วโมง อีกรุ่นเป็นซูเปอร์คาร์จากอิตาลี โดยค่ายนิชคาร์ส่งเข้าประกวด ลัมบอร์กินี กัลญาร์โด้ LP570-4 รุ่นพิเศษ Super Trofeo Stradale ที่ผลิตออกมาจำกัดเพียง 150 คัน แรงจัดด้วยเครื่องยนต์ 5.2 ลิตร 570 แรงม้า อัตราเร่ง 0-100 ในเวลาเพียง 3.4 วินาทีเท่านั้น สนราคาขาย 25.5 ล้านบาท นั่นเป็นรถยนต์สองรุ่นที่ผู้เข้าชมงานบางกอกมอเตอร์โชว์ปีนี้ไม่น่าพลาด ส่วนจะซื้อหรือไม่…คงไม่เป็นไร!!!

Phantom Drophead Coupe