Wednesday, July 27, 2011

เลือกตัวช่วย เมื่อรถคุณยางแตก

ปัญหายางแตกนั้น นับเป็นปัญหาสำคัญมากในขั้นต้นๆที่ไม่มีใครอยากเผชิญ โดยเฉพาะเมื่อทางออกเดียวอาจคือการเปลี่ยนยางไปใช้ยางอะไหล่สำรอง แต่ด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำของโลกวันนี้ บางทียางแตกอาจกลายเป็นเรื่องจิ๊บๆ ที่ไม่ต้องกังวลใจ และยังทำให้คุณและรถปลอดภัยจากกลุ่มคนไม่หวังดี

1.Mini Air compressor สูบลมต่อชีวิต ไปได้อีกหน่อย
อย่างที่เรากล่าวไปว่ายางรถยนต์ปัจจุบันนั้นเป็นยางอัดลม ดังนั้นข้อสำคัญของการขับขี่นั้นอยู่ที่ลมในยาง หากเมื่อไรก็ตามที่ลมหายยางของคุณจะแบนแทบทันที ซึ่งข้อสำคัญในการต่อเวลาคือทำให้ยางมีลมและแข็งตัวพอที่จะเดินทางต่อไปได้

ตามปกติแล้วเราสูบลมบางโดยอาศัยเครื่องปั้มลมเป็นหลัก แต่ปัจจุบันมีการพัฒนาปั้มลมให้มีขนาดเล็กจนพอที่จะพกพาได้แถมราคาก็ไม่สูง มากสามารถหาซื้อได้ในราคา 900 - หลายพันบาท แล้วแต่ยี่ห้อ ซึ่งในกรณีที่คุณเกิดยางแตกกลางทางก็สูบลมชั่วคราวแล้วไปต่อ ซึ่งหากอาการไม่หนักมาก คุณจะสามารถขับได้ไกลถึง 20 กิโลเมตร ที่น่าเพียงพอจะเจอช่างผู้ชำนาญการเรื่องยาง แต่ก็ควรขับช้าๆ ไปเรื่อยๆ และอย่าลืมเปิดไฟฉุกเฉินด้วย

2. Tire Puncture Sealant สเปร์ยมหัศจรรย์ช่วยคุณได้
ทุกวันนี้ปัญหาเรื่องยางรั่วดูจะง่ายกว่าที่คิด และถ้าคุณเดินตามแผนกประดับยนต์บ่อยๆคงจะเคยเจอสเปร์ยซีลยาง หรือ Tyre Weld ที่อาจจะดูไร้ค่าราคาแพง แต่เมื่อยางแตก คุณอาจจะนึกอยากได้มันมาใช้ก็ได้


เจ้าน้ำยางซีลยางนี้ถือเป็นนวัตกรรมที่เหมาะมากโดยเฉพาะคุณสุภาพสตรี เพราะขอเพียงแค่มีสเปร์ยตัวนี้ คุณก็สามารถจะไปต่อได้แทบจะทันใด โดยเจ้าน้ำยามหัศจรรย์ที่ว่านี้ตัวมันคือโฟมปะยางชนิดพิเศษ ที่เพียงเสียบจุกพ่นลมเข้าไปในยาง และมันก็จะไปจับตัวอุดรอยรั่วที่เกิดขึ้นที่หน้ายาง ทำให้แรงดันลมในยางคงที่ แต่คุณก็ยังจำเป็นต้องหาปั้มเพื่อเติมลมยาง ซึ่งวิธีนี้ค่อนข้างสะดวกมาก แต่เพื่อการปะยางที่ถูกต้องก็ยังต้องไปร้านยางอยู่ดี
 
3.Run Flat Tire ...ออพชั่นนี้แพง แต่มั่นใจได้แน่นอน 
เราหลายคนอาจจะเคยได้ยินกิตติศักดิ์ของยาง Run Flat Tire หรือ แปลตรงตัวง่ายเลยว่าถึงแบนก็ขับได้ ที่ทำให้คุณหมดห่วงไร้กังวลเรื่องของยางแตกไปได้เลย


เทคโนโลยีของยาง Run-flat tire นั้นมีการแนะนำมากสักพักใหญ่แล้ว และมันถูกติดตั้งในกลุ่มรถหรูเสียส่วนใหญ่ แต่กลับไม่ได้รับความนิยมจากผู้ใช้ทั่วไปนัก ด้วยราคาที่แพง แต่เทคโนโลยีชั้นสูงนี้ ก็ช่วยให้ไปได้ไกลถึง 90 กิโลเมตร เป็นอย่างน้อยทั้งที่มีปัญหา และมีการทดสอบในต่างประเทศว่าสามารถไปได้ไกลถึง 320 กิโลเมตร แต่โดยมากจะแนะนำไม่ให้ขับไกลเกิน 160 กิโลเมตร

อย่างไรก็ดี ทั้ง 3 ทาง เลือกสำหรับนักขับยุคใหม่นั้น ไม่สามารถช่วยคุณได้หากพบว่าอาการยางแบนของคุณเกิดจากความเสียหายที่แก้มยาง ซึ่งตามปกติมีโอกาสน้อยมากที่จะพบปัญหาดังกล่าว แต่เอาเป็นว่าถ้าคุณไม่ได้บุกป่าตะลุยทุ่งอะไรนักทางเลือกที่ว่านี้ก็น่าจะ พอช่วยคุณไม่ต้องเหนื่อยได้


sanook auto 

No comments:

Post a Comment

Popular Posts