Thursday, April 16, 2015

Honda Civic Hybrid New

ฮอนด้า เปิดตัว “ซีวิค ไฮบริด ใหม่” รุกตลาดเก๋งคอมแพกต์ซีดานแบบไฮบริด โดดเด่นกับกระจังหน้า ไฟหน้าโปรเจกเตอร์กรอบสีฟ้า ไฟท้าย LED และเลนส์สีเคลียร์บลู ครบครันด้วยเทคโนโลยีทันสมัย และระบบความปลอดภัยเต็มพิกัด เปิดทำตลาด 2 รุ่น เริ่มต้นราคา 1,035,000 บาท และรุ่นท็อป Hybrid Navi 1,095,000 บาท เผยนำแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนมาใช้กับรถยนต์ไฮบริดที่ผลิตในไทยเป็นรายแรก พร้อมขยายเวลารับประกันแบตเตอรี่เพิ่มเป็น 10 ปี รวมถึงฮอนด้า ซีอาร์-ซีร์ และแจ๊ซ ไฮบริด



นายพิทักษ์ พฤทธิสาริกร รองประธานอาวุโส บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า การเปิดตัวรถยนต์ ฮอนด้า ซีวิค ไฮบริด ใหม่ ในวันนี้ (15 ก.พ.) เป็นการนำเสนอยนตรกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ด้วยเทคโนโลยีไฮบริด IMA ผสานการทำงานร่วมกับเครื่องยนต์ i-VTEC ขนาด 1.5 ลิตร ทำให้มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ต่ำ เพื่อรองรับกระแสความต้องการรถยนต์พลังงานสะอาด ที่มีศักยภาพในการเติบโตในประเทศไทย และจะเป็นทางเลือกให้กับกลุ่มคนรุ่นใหม่ ที่สนใจเทคโนโลยีใหม่ๆ สร้างสรรค์โดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมมากขึ้น

“ด้วยรูปลักษณ์ดีไซน์ที่ลงตัวของซีวิ ค ไฮบริด โฉมล่าสุด ผสานกับสมรรถนะการขับขี่ที่คงความสนุก ประหยัดเชื้อเพลิง ควบคู่กับเทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม จึงมั่นใจว่าซีวิค ไฮบริด ใหม่ จะเข้ามาเติมเต็มตลาดรถยนต์ไฮบริดในระดับคอมแพคท์ซีดาน และตอบโจทย์กลุ่มคนรุ่นใหม่ได้เป็นอย่างดี โดยตั้งเป้าหมายการขาย 7,200 คันภายในหนึ่งปี”

สำหรับซีวิค ไฮบริด ใหม่ ที่เปิดตัวในประเทศไทย นับเป็นอีกก้าวสำคัญของความล้ำหน้าทางเทคโนโลยียานยนต์ของฮอนด้า ที่นำแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน ซึ่งสามารถบรรจุพลังงานไฟฟ้าได้มากขึ้น แต่มีน้ำหนักเบา มาใช้ในยนตรกรรมไฮบริดของฮอนด้าเป็นครั้งแรก และยังเป็นรายแรกที่ผลิตและจำหน่ายในประเทศไทย


ฮอนด้า ซีวิค ไฮบริด ใหม่ คงเอกลักษณ์อันโดดเด่น ครบครันด้วยอุปกรณ์มาตรฐาน เหนือชั้นด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะ อาทิ ...

เครื่องยนต์ : ระบบไฮบริด Integrated Motor Assist หรือ IMA ของฮอนด้า ที่มีระบบการทำงานแบบคู่ขนาน ผสานการทำงานของเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 8 วาล์ว i-VTEC 1.5 ลิตร SOHC ให้แรงบิดสูงสุดที่ 132 นิวตัน-เมตร ที่ 2,800 รอบต่อนาที กำลังสูงสุด 91 แรงม้า ที่ 5,500 รอบต่อนาที และมอเตอร์ไฟฟ้าให้แรงบิดสูงสุดที่ 106 นิวตัน-เมตร ที่ 500-1,546 รอบต่อนาที กำลังสูงสุด 23 แรงม้า ที่ 1,546-3,000 รอบต่อนาที




โดยเครื่องยนต์จะทำหน้าที่หลักในการขับเคลื่อน และเสริมแรงด้วยพลังงานจากมอเตอร์ไฟฟ้า เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการออกตัวและเร่งแซง เมื่อขับขี่ด้วยความเร็วต่ำคงที่ เครื่องยนต์จะหยุดทำงาน และเข้าสู่ EV Mode โดยมอเตอร์ไฟฟ้าจะทำหน้าที่หลักในการขับเคลื่อน ซึ่งในขณะที่เครื่องยนต์เข้าสู่ EV Mode นี้ จะไม่มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกมา ช่วงลดความเร็วหรือเบรก เครื่องยนต์จะหยุดทำงาน ระบบจะนำพลังงานที่สูญเสียไปในขณะเบรกมาเปลี่ยนเป็นพลังงานไฟฟ้าส่งกลับคืน สู่แบตเตอรี่ไฮบริด เพื่อเก็บพลังงานไว้ใช้ต่อไป และเมื่อรถหยุด เครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าจะหยุดทำงานอัตโนมัติ และเข้าสู่โหมด Idling Stop เพื่อช่วยประหยัดน้ำมัน และลดมลพิษ


เทคโนโลยีอัจฉริยะ : ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์แบบอัจฉริยะ (One Push Ignition System) ระบบควบคุมประตูมาร์ทคีย์ (Honda Smart Key System) ครบครันด้วยฟังก์ชันที่ล้ำหน้า อาทิ หน้าจอแสดงข้อมูล i-MID (Intelligent Multi-Information Display) ซึ่งเป็น Smart Interface ที่ผู้ขับขี่สามารถควบคุมการทำงานของระบบต่างๆ อย่างสมบูรณ์แบบตามความต้องการของผู้ขับขี่ รวมไปถึงระบบ Eco Assist ระบบแนะนำการขับขี่แบบประหยัดเชื้อเพลิงมากยิ่งขึ้น

รูปลักษณ์โฉบเฉี่ยว : การออกแบบภายนอกมีโครงสร้างแบบ Mono Form ผสานดีไซน์เฉียบคมทุกเส้นสาย
ส่วนดีไซน์ภายในห้องโดยสารมีความล้ำสมัยแบบ Futuristic Cockpit พร้อมดีไซน์สุดพิเศษเอกลักษณ์เฉพาะรุ่นซีวิค ไฮบริด ใหม่เท่านั้น อาทิ กระจังหน้า ไฟหน้าโปรเจกเตอร์พร้อมกรอบสีฟ้า และไฟท้ายแอลอีดีพร้อมเลนส์สีเคลียร์บลู สปอยเลอร์หลัง และล้ออัลลอยดีไซน์พิเศษ

ระบบความปลอดภัย : นอกจากโครงสร้างตัวถังแบบ G-Force Control (G-CON) ยังมีการติดตั้งระบบความปลอดภัยมาตรฐานมากมาย เช่น ถุงลมคู่หน้า Dual SRS ถุงลมด้านข้างคู่หน้าอัจฉริยะ i-Side Airbags ระบบป้องกันล้อล็อก (ABS) และระบบกระจายแรงเบรก (EBD) ระบบช่วยควบคุมการทรงตัว Vehicle Stability Assist™ (VSA®) ระบบช่วยการออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน (Hill Start Assist) และระบบบังคับเลี้ยวพร้อมระบบช่วยผ่อนแรงแบบใหม่ (Motion Adaptive Electric Power Steering) ซึ่งทำหน้าที่ควบคุมทิศทางของตัวรถได้อย่างแม่นยำ และช่วยลดการเกิดอาการหน้าดื้อโค้งหรือท้ายปัดได้ ระบบเตือนคาดเข็มขัดนิรภัยด้านผู้โดยสารตอนหน้า กล้องส่องภาพด้านหลัง กุญแจนิรภัย Immobilizer และล่าสุดยังมีการติดตั้งจุดยึดเบาะนั่งสำหรับเด็ก (ISOFIX & Child Anchor) เพื่อความปลอดภัยสูงสุดสำหรับผู้โดยสารเด็ก



สำหรับฮอนด้า ซีวิค ไฮบริดใหม่ มี 2 รุ่น ได้แก่ รุ่น Hybrid ราคา 1,035,000 บาท และรุ่น Hybrid Navi ราคา 1,095,000 บาท มีให้เลือก 3 สี คือ สีขาวออร์คิด (มุก - เพิ่มเงิน 10,000 บาท) สีขาวฟรอสตี้ (เมทัลลิก) และสีเงินอลาบาสเตอร์ (เมทัลลิก) สำหรับสีภายในเป็นสีเทาทั้งสองรุ่น ลูกค้าที่สนใจสามารถชมรถได้ที่โชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศ

นอกจากนี้ฮอนด้า ซีวิค ไฮบริด ใหม่ รับประกันระบบไฮบริดทั้งระบบ ซึ่งประกอบด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า อุปกรณ์ควบคุม แบตเตอรี่ไฮบริดและระบบสายไฟไฮบริด เป็นระยะเวลา 5 ปี แบบไม่จำกัดระยะทาง และพิเศษเพื่อตอกย้ำคุณภาพนวัตกรรมยานยนต์ไฮบริดจากฮอนด้า ได้ขยายเวลาการรับประกันแบตเตอรี่เพิ่มอีก 5 ปี รวมเป็น 10 ปี และในโอกาสเดียวกันนี้ฮอนด้าได้ขยายระยะเวลารับประกันแบตเตอรี่ให้กับรถยนต์ ฮอนด้าไฮบริดอีก 2 รุ่น ได้แก่ ซีอาร์-ซีร์ และแจ๊ซ ไฮบริด เพิ่มขึ้นอีก 5 ปี เป็น 10 ปี แบบไม่จำกัดระยะทาง ด้วยเช่นเดียวกัน รวมทั้งยังครอบคลุมถึงลูกค้าที่ได้ซื้อรถยนต์ทั้ง 2 รุ่น ไปก่อนหน้านี้ด้วย



No comments:

Post a Comment

Popular Posts