Wednesday, April 15, 2015

Mercedes-Benz CLS Shooting Brake

บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด จัดงานเปิดตัว เมอร์เซเดส-เบนซ์ CLS Shooting Brake รถ อเนกประสงค์ทรงสเตชันแวกอน(เอสเตท) สายพันธุ์ใหม่ โดยนำเข้ารุ่น CLS 250 CDI ที่วางเครื่องยนต์ดีเซล2.1 ลิตร 204 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตร สนนราคา 4,990,000 บาท และรุ่นชุดแต่งAMG 5,390,000 บาท


สำหรับเมอร์เซเดส-เบนซ์ CLS Shooting Brake ยนตรกรรมโฉมใหม่ที่มาพร้อมกับเครื่องยนต์ดีเซลแบบแถวเรียง 4 สูบ ความจุกระบอกสูบ 2,143 ซีซี ให้กำลังสูงสุด204 แรงม้า ที่ 3,800 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตรที่ 1,600 - 1,800 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติเดินหน้าแบบ 7 จังหวะ (7G-TRONIC PLUS) แบบ DIRECT SELECT พร้อมระบบเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย (Steering-wheel Gearshift Paddles) อัตราเร่งจาก 0 - 100 กม./ชม. ภายในระยะเวลา 7.8 วินาที ความเร็วสูงสุด 235 กม./ชม.

โดยพวงมาลัยเป็นระบบไฟฟ้าที่ได้รับ การพัฒนาขึ้นใหม่ด้วยระบบ Electromechanical ที่ช่วยประหยัดน้ำมันและช่วยให้การบังคับพวงมาลัยคล่องตัวมากขึ้นเหมาะกับ ทุกการขับขี่บนท้องถนน นอกจากนั้นยังทำงานร่วมกับระบบช่วยในการนำรถเข้าจอดอัตโนมัติ (Active Park Assist) พร้อมด้วยฟังก์ชั่น ECO Start/Stop

The new CLS Shooting Brake เป็นยนตรกรรมที่สร้างปฐมบทใหม่ให้แก่วงการยานยนต์ ด้วยนวัตกรรมการออกแบบอย่างสร้างสรรค์ล้ำสมัย ด้วยโครงสร้าง (ความยาว 4,956 มม. ความกว้าง 1,881 มม. และความสูง 1,416 มม.) ที่สร้างความแตกต่างอันโดดเด่น ด้วยลายเส้นที่โค้งมนตั้งแต่ฝากระโปรงหน้า โครงกระจกด้านข้างแบบไร้ขอบ ไปจนถึงหลังคาที่ลาดลงต่อเนื่องจรดด้านท้ายของตัวรถ

โดยจุดเด่นสำคัญอยู่ที่ดีไซน์ในแบบสปอร์ต 5 ประตู ซึ่งมีด้านท้ายที่กว้างอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ด้วยห้องเก็บสัมภาระที่มีความจุตั้งแต่ 590 จนถึง 1,550 ลิตร เหมาะกับผู้ที่ต้องการทั้งความสปอร์ต แต่ยังคงมีพื้นที่วางสัมภาระเมื่อต้องการเดินทางอย่างมีสไตล์



นอกจากนี้ตัวถังรถถูกพัฒนาให้เน้นน้ำหนักเบาแต่แข็งแกร่งทนทาน โดยใช้ประตูแบบไร้กรอบทั้งบานที่ทำจากแผ่นอะลูมิเนียมอัดรีด ซึ่งมีน้ำหนักเบากว่าประตูเหล็กแบบเดิมถึง 32 กิโลกรัม ตลอดจนฝากระโปรงหน้า ฝากระโปรงหลัง และส่วนประกอบสำคัญอื่นๆ ของเครื่องยนต์ก็ทำจากอะลูมิเนียมด้วยเช่นกัน ทำให้ค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานตามหลักอากาศพลศาสตร์ (Cd) มีค่าเท่ากับ 0.29

ส่วนไฟหน้าเป็นแบบ LED High Performance ประสิทธิภาพสูง ผสมผสานกับเทคโนโลยี LED พร้อมระบบปรับโคมไฟหน้ารถอัจฉริยะ และไฟ daytime สำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED ทำให้สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน ตอกย้ำรูปลักษณ์อันโดดเด่นไม่เหมือนใคร ดูเด่นสะดุดตาในยามค่ำคืน และเพื่อความปลอดภัยที่เพิ่มมากขึ้น

ภายในออกแบบประณีตและหรูหรา และยังสามารถเพิ่มสไตล์การตกแต่งอีกระดับเป็นออพชั่น ด้วยลายไม้แบบ American Cherry และลายไม้โอ๊คพร้อมรางอะลูมิเนียม นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชั่น EASY-PACK-Quickfold ที่ช่วยในการพับพนักพิงเบาะด้านหลัง เพื่อเพิ่มพื้นที่บรรทุกสัมภาระให้มากยิ่งขึ้น และฟังก์ชั่นเปิด-ปิดบานประตูท้ายด้วยระบบไฟฟ้าเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน



สำหรับภายในห้องโดยสารมีเบาะนั่งแบบ 5 ที่นั่งพร้อมพนักพิงศีรษะปรับระดับได้ คู่หน้าแบบ NECK-PRO head restraints และสามารถเลือกวัสดุตกแต่งลายไม้ได้ถึง 3 แบบ ได้แก่ ลายไม้ black ash wood หรือ brown burr walnut หรือ light brown poplar นอกจากนั้นยังมีระบบมัลติมีเดีย COMAND Online เพื่อให้สามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตให้ความเพลิดเพลินบันเทิงใจขณะขับขี่

ด้านระบบความปลอดภัยครบครัน ไม่ว่าจะเป็นเข็มขัดนิรภัยแบบ 3 จุด 5 ที่นั่ง เข็มขัดนิรภัยแบบผ่อนแรงและรั้งกลับอัตโนมัติ พร้อมฟังก์ชั่น PRE-SAFE ถุงลมนิรภัยด้านหน้าและด้านข้างสำหรับคนขับและผู้โดยสารด้านหน้า และม่านถุงลมนิรภัย สำหรับผู้โดยสารทั้ง 4ตำแหน่ง ระบบปกป้องก่อนเกิดเหตุ PRE-SAFE® ซึ่งมีเพียงแบรนด์เดียวในโลกโปรแกรมควบคุมการทรงตัวอัตโนมัติ ESP (Electronic Stability Program) ที่จะช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถรักษาทิศทางและการทรงตัวของรถได้อย่างปลอดภัยใน สถานการณ์คับขัน



ตลอดจนระบบช่วยเบรก BAS (Brake Assist) ที่จะทำงานร่วมกับระบบเบรกป้องกันล้อล็อค ABS (Anti-lock braking system) ระบบช่วยเตือนอาการเหนื่อยล้าขณะขับขี่ (ATTENTION ASSIST) ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี ASR (Acceleration skid control) ที่ช่วยรักษาเสถียรภาพการทรงตัวและการยึดเกาะถนนให้อยู่ในระดับสูงสุด ระบบรักษาระดับความเร็ว (Cruise Control) และจำกัดความเร็ว (SPEEDTRONIC)

โดย CLS Shooting Brake มีการตกแต่งให้เลือก 2 รุ่นคือ

CLS 250 CDI Shooting Brake Exclusive ราคา 4,990,000 บาท

CLS 250 CDI Shooting Brake AMG Premium ราคา 5,390,000 บาท มาพร้อมชุดแต่งแบบสปอร์ต AMG (กันชนหน้า กันชนหลัง และสเกิร์ตข้าง), พวงมาลัย 3 ก้านแบบสปอร์ตหุ้มด้วยหนัง nappa, กระจังหน้าเสริมโครเมียม พร้อมสัญลักษณ์ เมอร์เซเดส-เบนซ์, เบาะนั่ง หมอนรองศีรษะ ที่วางแขนข้างประตู และคอนโซลกลางตกแต่งด้วยการเดินด้ายสีอ่อนตัดกับสีเบาะ, แป้นเบรกและคันเร่งแบบสปอร์ต, ช่วงล่างแบบสปอร์ต, ปลายท่อไอเสียโครเมียมทรงสี่เหลี่ยมคางหมู 2 ท่อ ซ้าย-ขวา และ พรมสีดำ พร้อมสัญลักษณ์ AMG ซึ่งมา

พร้อมกับอุปกรณ์เพิ่มเติมสำหรับรุ่น Premium ได้แก่

- กล้องแสดงภาพขณะถอยหลัง
- ถุงลมนิรภัยเพิ่มเติมซ้าย-ขวาสำหรับผู้โดยสารด้านหลัง
- ซันรูฟหลังคาแบบกระจก เปิด-ปิดได้ด้วยระบบไฟฟ้า
- ไฟตกแต่งภายในห้องโดยสารที่เลือกปรับได้ 3 สี
- ระบบกุญแจแบบ KEYLESS-GO
- ล้ออัลลอย AMG ขนาด 19 นิ้ว





นอกจากนี้ บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด ยังเปิดตัว CLS ตัวถังคูเป้ 4 ประตู รุ่น CLS 250 CDI หลังจากเคยเปิดตัวรุ่น CLS350 BluEFFICIENCY ที่วางเครื่องยนต์ขนาด 3.5 ลิตร 306 แรงม้า ราคากว่า 8 ล้านบาท ไปก่อนหน้า โดย CLS 250 CDI AMG มากับตกแต่งด้วยชุดแต่งแบบสปอร์ต AMG ทั้ง 2 รุ่น ไม่ว่าจะเป็นแบบ AMG Dynamic และ AMG Premium

CLS 250 CDI AMG Dynamic ราคา 4,990,000 บาท
CLS 250 CDI AMG Premium ราคา 5,290,000 บาท มาพร้อมกับอุปกรณ์เพิ่มเติมสำหรับรุ่น Premium ได้แก่

- กล้องแสดงภาพขณะถอยหลัง
- ถุงลมนิรภัยเพิ่มเติมซ้าย-ขวาสำหรับผู้โดยสารด้านหลัง
- ซันรูฟหลังคาแบบกระจก เปิด-ปิดได้ด้วยระบบไฟฟ้า
- ไฟตกแต่งภายในห้องโดยสารที่เลือกปรับได้ 3 สี
- ระบบกุญแจแบบ KEYLESS-GO
- ล้ออัลลอย AMG ขนาด 19 นิ้ว

No comments:

Post a Comment

Popular Posts